นายธนกฤษ เตชะปัญญารักษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แม็กซ์เวลล์ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด ได้ให้สัมภาษณ์แสดงความคิดเห็นว่า ช่วงระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมยางพาราไทย มีทิศทางขยายตัวต่อเนื่องทั้งด้านผลผลิตและความต้องการ โดยผลผลิตยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากการขยายพื้นที่เพาะปลูก ทำให้ความต้องการเพิ่มขึ้นตามอุตสาหกรรมต่อเนื่องทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศโดยเฉพาะการใช้ยางพาราเพื่อทดแทนยางสังเคราะห์ที่ราคาปรับสูงขึ้น ตามแนวทางการปรับราคาของน้ำมัน และคาดว่าธุรกิจอุตสาหกรรมแปรรูปยางพาราจะเติบโตสูงขึ้นด้วยแรงหนุนจากอุปสงค์ของอุตสาหกรรมการผลิตที่เกี่ยวเนื่อง อาทิ กลุ่มยานยนต์EV ถุงมือยาง อุปกรณ์ทางการแพทย์ และการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่มีแนวโน้มขยายตัว หนุนความต้องการใช้ยางในภาคก่อสร้างเพิ่มขึ้น
บริษัท แมกซ์เวลล์ เอ็นตเตอร์ไพรส์ จำกัด เล็งเห็นถึงความสำคัญของการเติบโตของอุตสาหกรรมยางพารา จึงมีแนวคิดพัฒนาธุรกิจเครื่องจักรแปรรูปยางพารา ที่จะนำมาใช้ในงานอุตสาหกรรมยางพาราไทย โดย บริษัท แมกซ์เวลล์ เอ็นตเตอร์ไพรส์ จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 45 ล้านบาท โรงงานตั้งอยู่ที่จังหวัดสระบุรี เป็นผู้นำเข้าเครื่องจักรแปรรูปยางพารา(Rubber processing machine)และรับติดตั้งเครื่องจักร(Rubber machinery installation) รับทำซ่อมบำรุงเครื่องจักร(Maintenance of machinery service) รับซ่อมแซมเปลี่ยนอะไหล่เครื่องจักร เช่น เครื่องตัดบดยาง(Rubber cutting machine) เครื่องผสมยาง(Rubber kneader machine) เครื่องรีดยาง(Rubber calender machine) เครื่องขึ้นรูปยางRubber compression machine) และให้คำปรึกษาในการพัฒนาปรับปรุงเครื่องจักรเดิมที่มีอยู่แล้ว เพื่อรองรับและพัฒนาผลิตภัณฑ์ยางพาราให้มีประสิทธิภาพ สำหรับงานอุตสาหกรรมการผลิตที่เกี่ยวเนื่อง โดยคำนึงถึงราคาเครื่องจักรที่ภาค
เกษตรกรต้องเข้าถึงได้ ใช้งานง่าย บำรุงรักษาไม่ยากและประหยัดพลังงาน ถือเป็นอีกทางเลือกที่ทำให้ยางพาราไทยแข่งขันในตลาดโลกได้มากขึ้น และเป็นอีกทางระบายยางในประเทศ พร้อมไปกับการขับเคลื่อนยกระดับเกษตรกรให้เป็นผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ของตัวเองอีกด้วย
ทั้งนี้ทางบริษัทฯ ยังบริหารธุรกิจโดยยึดหลัก BCG Economy Model โดยรับรวบรวมวัสดุที่ผ่านการใช้งานแล้ว(Industrial wastes) เช่น เศษยาง เศษพลาสติก เศษเหล็ก เศษผ้า เศษหนัง ฯลฯ มาผ่านกระบวนการแปรรูปอัพไซเคิล(Rubber upcycle) เพื่อทำให้กลับมามีคุณภาพเทียบเท่าหรือใกล้เคียงของเดิม หรือให้ได้วัตถุดิทดแทนวัตถุดิบเดิม(Rubber recycle) เพื่อลดต้นทุนและผ่านตามมาตรฐาน Global Recycled Standard, GRS (ผลิตภัณฑ์ต้องมีวัตถุดิบอย่างน้อย 20% ที่ประกอบด้วยวัสดุรีไซเคิลและปลอดจากมลพิษ 100%) ซึ่งทาง บริษัท แม็กซ์เวลล์ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด มีแผนธุรกิจเพื่อให้คำปรึกษาและออกแบบเครื่องจักรเพื่อให้ โรงงานอุตสาหกรรมไทยสามารถจัดการเศษกากอุตสาหกรรม (Industrial waste management) ได้ด้วยตัวเองเพื่อนำมาเป็นวัตถุดิบทดแทน
และบริษัทฯ ยังผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยางที่ใช้ในงานอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น ประเก็นยาง ยางกันชนท่าเรือ ยางสนามเด็กเล่น โดยสามารถดูข้อมูลผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมได้ที่เว็บไซด์ www.rubber-upcycle.com หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 036-670866, 0963987451